BAScii CU Requirement 2025 + เรียนจบแล้วทำงานอะไรได้บ้าง?
- TUTORRUS

- Sep 15
- 2 min read
Updated: Nov 10

หลังจากที่รู้จัก BAScii กันไปแล้วในบทความก่อนหน้ากันแล้ว (คลิกอ่าน BAScii เรียนอะไร? หลักสูตรมาแรง รวมทุกคำถาม BAScii เหมาะกับใคร? ค่าเทอม? สังคม BAScii?) TUTORRUS จะพามาดูกันต่อว่าถ้าอยากเข้า BAScii CU ต้องเตรียมตัวยังไงและ BAScii Requirement ปีล่าสุด ต้องเตรียมคะแนนอะไรบ้าง คิดเกณฑ์คะแนนสอบเข้า BAScii ยังไง และที่สำคัญคือเรียนจบแล้วจะทำงานอะไรได้บ้าง มาดูกันเลย!
เกณฑ์การสมัครพื้นฐาน
คุณสมบัติที่ต้องมี
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้าย
ม.6 ในระบบไทย
Grade 12 ในระบบสหรัฐฯ
Year 13 ในระบบอังกฤษ/ IB
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม
ผลคะแนนสอบวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ตามเกณฑ์ที่กำหนด
E-Portfolio (ผลงานและประสบการณ์ของตนเอง)
ซึ่งสัดส่วนการคิดคะแนน จะเป็น 100% โดย ทาง TUTORRUS ได้รวบรวมรายละเอียดและ Tips ในการเตรียมตัวเข้า BAScii CU ไว้ให้แล้ว ดังนี้
คะแนนสอบที่ต้องเตรียม
การประเมินแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก โดยมีสัดส่วนคะแนนดังนี้:

เกณฑ์การประเมิน | สัดส่วนคะแนน |
ภาษาอังกฤษ | 20% |
คณิตศาสตร์ | 30% |
E-Portfolio & Interview | 15% |
Team Dynamic Assessment | 15% |
Aptitude Test | 20% |
คะแนนภาษาอังกฤษขั้นต่ำ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
สำหรับคะแนนภาษาอังกฤษ จะคิดเป็น 20% ของการคัดเลือกเลย โดยน้อง ๆ ที่อยากเข้า BAScii ต้องเลือกคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่งในการยื่น
TOEFL (iBT) ≥ 80 คะแนน
IELTS ≥ 6.5 คะแนน
SAT (Evidence-Based Reading & Writing) ≥ 500 คะแนน
ACT (English and Reading) ≥ 37 คะแนน
CU-TEP ≥ 100 คะแนน
คะแนนคณิตศาสตร์ขั้นต่ำ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
ส่วนคะแนน Math จะมีสัดส่วนคะแนน 30% ดังนั้นต้องทำคะแนนให้ดีเช่นกัน
SAT (Math) ≥ 640 คะแนน
ACT (Math) ≥ 27 คะแนน
CU-AAT Math ≥ 620 คะแนน
เกณฑ์พิเศษ
หากมี SAT Composite ไม่ต่ำกว่า 1,300 หรือ GED ไม่ต่ำกว่า 700 ก็สามารถยื่นได้เช่นกัน

ทำ E-Portfolio BAScii ยังไง?
E-Portfolio คือส่วนสำคัญที่มีน้ำหนักถึง 30% ร่วมกับการ Interview ซึ่งเป็นทั้งคะแนนสำคัญ และจุดที่จะช่วยแสดงตัวตนของน้อง ๆ ได้อย่างดีอีกด้วย ว่าเรามีความสอดคล้องและเหมาะกับ BAScii จริง ๆ
ไอเดียกิจกรรมใส่ E-Portfolio BAScii:
สำหรับกิจกรรมที่ใส่ใน E-Portfolio สำหรับยื่น BAScii CU ค่อนข้างจะเปิดกว้าง สามารถใส่ได้หลากหลาย เช่น
โครงงานต่าง ๆ - แสดงความสามารถในการคิดวิเคราะห์, สร้างสรรค์
ประสบการณ์ฝึกงาน - แสดงการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
ธุรกิจส่วนตัว - แสดงความเป็นผู้ประกอบการ
กิจกรรมอาสาเพื่อสังคม - แสดงจิตสำนึกทางสังคม
จุดสำคัญ:
BAScii ให้ความสำคัญกับ 'ศักยภาพ' และ 'ทัศนคติ' ไม่น้อยไปกว่าคะแนนสอบ ดังนั้นการที่ E-Portfolio & Interview รวมถึง Aptitude test, Team Spirit Assessment มีคะแนนรวมกันเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% แสดงให้เห็นว่าทางหลักสูตรมองหาผู้ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และมีทักษะในการสร้างสรรค์ที่เป็นรูปธรรม
ดังนั้น 50% ที่เหลือ จึงสำคัญมาก ๆ ที่จะตัดสิน หากทำอีก 50% ที่เหลือให้ดี โอกาสสอบติดสูงมากจริง ๆ ค่ะ

การสัมภาษณ์และ Aptitude Test
BAScii Interview (15%)
สัมภาษณ์กับอาจารย์ ในหลักสูตร
ประเมินร่วมกับ E-Portfolio (รวม 15%)
เป็นโอกาสแสดงตัวตนและวิสัยทัศน์ส่วนตัว
BAScii Aptitude Test (20%)
การทดสอบความถนัดเชิงวิเคราะห์
การทดสอบความคิดสร้างสรรค์
ประเมินศักยภาพในการเป็น Innovator
BAScii เรียนจบแล้วทำอะไรได้บ้าง?
บัณฑิต BAScii ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในสายอาชีพใดอาชีพหนึ่ง แต่จะเป็นคนที่มีทักษะหลากหลาย (Multi-Skill) และพร้อมที่จะเป็น Creative Innovator ที่สามารถทำงานในตำแหน่งที่ต้องการความรู้แบบบูรณาการ
เส้นทางผู้ประกอบการและธุรกิจ
ตำแหน่งงานที่เป็นไปได้:
Entrepreneur (ผู้ประกอบการ)
Start-up Founder (ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ)
Technopreneur (ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี)
Innovation Designer / Planner (นักออกแบบ/วางแผนนวัตกรรม)
ทักษะหลักที่ได้จาก BAScii: ความเป็นผู้ประกอบการ, การบริหารจัดการ, การคิดเชิงกลยุทธ์, การบริหารโครงการ
เส้นทางเทคโนโลยีและข้อมูล
ตำแหน่งงานที่เป็นไปได้:
AI Research Scientist (นักวิจัย AI)
Digital Innovation Analyst (นักวิเคราะห์นวัตกรรมดิจิทัล)
Robotics Specialist (ผู้เชี่ยวชาญหุ่นยนต์)
Data Scientist (นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล)
Digital Transformation Specialist (ผู้เชี่ยวชาญการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล)
ทักษะหลักที่ได้จาก BAScii: AI, Machine Learning, Data Analytics, Algorithmic Thinking, การเขียนโค้ด
เส้นทางนวัตกรรมเพื่อสังคมและสุขภาพ
ตำแหน่งงานที่เป็นไปได้:
Health Innovator (นักสร้างสรรค์นวัตกรรมสุขภาพ)
Smart City Designer / Planner (นักออกแบบ/วางแผนเมืองอัจฉริยะ)
Climate Change Analyst (นักวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
Social Enterprise Founder (ผู้ก่อตั้งองค์กรเพื่อสังคม)
ทักษะหลักที่ได้จาก BAScii: การคิดเชิงออกแบบ, การแก้ปัญหาเพื่อสังคม, ความรู้ด้านสุขภาวะ, การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ทักษะที่ได้จาก BAScii
ความได้เปรียบในตลาดงาน
บัณฑิต BAScii มีจุดแข็งที่แตกต่างจากคณะอื่น ถึง 5 เรื่องหลักด้วยกัน:
การเป็น Multi-Skill Professional - มีทักษะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ความเข้าใจเชิงบูรณาการ - สามารถเชื่อมโยงความรู้จากหลายศาสตร์
ประสบการณ์การทำโครงงานจริง - มีผลงานที่จับต้องได้ตั้งแต่เรียน
ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ - พร้อมสร้างธุรกิจของตนเอง
ความเข้าใจเทคโนโลยี AI - พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล
Tips เพิ่มโอกาสสอบติด BAScii!
การเตรียมตัวที่ดี
เตรียมคะแนนสอบล่วงหน้า - TOEFL, IELTS, SAT ต้องใช้เวลาเตรียม
สร้าง Portfolio ที่โดดเด่น - รวบรวมผลงานที่แสดงความสามารถหลากหลาย
พัฒนาทักษะ Soft Skills - การสื่อสารการนำเสนอ การทำงานเป็นทีม
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยี - แสดงความสนใจในเทรนด์ใหม่ๆ
สิ่งที่ควรเน้นในการสัมภาษณ์, Team Spirit Assessment
วิสัยทัศน์ส่วนตัว เกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรม
ประสบการณ์การแก้ปัญหา ที่ผ่านมา
ความสนใจในการเรียนรู้ หลายศาสตร์
แผนการในอนาคต ที่สอดคล้องกับหลักสูตร
หลักสูตร BAScii จึงเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เป็นมากกว่าแค่ผู้เรียน แต่ได้ลงมือทำและเป็นผู้สร้างสรรค์ ใครที่ชอบแนวนี้ BAScii CU ตอบโจทย์ทั้งความชอบความสนใจส่วนตัว และอาชีพในอนาคตอย่างแน่นอน

อยากเข้า BAScii CU รีบมาเตรียมด้วยกันเลย! TUTORRUS มีคอร์สเจาะลึกการสอบติด BAScii ตั้งแต่การเตรียมคะแนน รวมไปถึงอีก 50% ของคะแนนในการคัดเลือกทั้งหมด ตั้งแต่การทำ Portfolio เข้า BAScii CU โดยเฉพาะ ที่เน้นเรื่องของ Innovation พร้อมให้คำปรึกษาแบบ Individual สำหรับผลงาน Innovation ใน Portfolio BAScii ให้โดดเด่น ตอบโจทย์ตามที่คณะต้องการ และคอร์ส Interview ที่ติวทั้งเรื่องการตอบสัมภาษณ์ โจทย์จริงที่จะเจอในการ Interview BAScii, Aptitude test, Team Spirit Assessment ครบ จบ ที่ TUTORRUS การันตีด้วยรีวิวสอบติด BAScii CU

















Comments